วันจันทร์, 18 พฤศจิกายน 2567

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมชาวโมซัมบิกที่หนีกบดานในไทย”

29 ก.ค. 2018
24

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมชาวโมซัมบิกที่หนีมากบดานในประเทศไทยตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL โดยเป็นหัวหน้าคอยสั่งการ ซึ่งก่อเหตุลักพาตัวนักธุรกิจไปเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงินประมาณ ๓,๐๐๐,๐๐๐ USD. หรือประมาณ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งยังก่อเหตุฆาตกรรมมาแล้ว จำนวน ๒ ราย และก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา

ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นหลายรูปแบบ มีการขยายตัวเป็นวงกว้างและสลับซับซ้อน มีการนำเทคโนโลยีและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด รวมทั้งคดีที่บุคคลต่างชาติมีส่วนร่วมในการกระทำผิด
​พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการกระทำผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยมีพล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.เป็น ผอ.ศูนย์ฯ มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ ได้ทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาทางการสาธารณรัฐโมซัมบิกต้องการจับกุมตัว นาย Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติ โมซัมบิก ผู้ต้องหารายสำคัญในฐานความผิดครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว จึงได้ร้องขอและส่งขอมูลไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกาให้ประสานงานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆทั่วโลกเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้ จนกระทั่ง FBI ประจำประเทศไทยได้รับข้อมูลดังกล่าว จึงได้ติดต่อประสานงานมายังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ “ศปอส.ตร.” ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือสั่งการ ตร. ลง ๔ ก.ค. ๖๑ ท้ายหนังสือ ตท. ที่ ๐๐๐๒.๓/๔๔๙๐ ลง ๒๖ มิ.ย. ๖๑ เรื่อง ทางการสหรัฐอเมริกาประสานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาชื่อ Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติ โมซัมบิก ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของทางการโมซัมบิก โดยได้มีหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL หมายเลข A-๔๔๗๖/๕-๒๐๑๗ โดยเป็นที่ต้องการตัวในฐานความผิดครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว จึงได้ทำการสืบสวนเพื่อตรวจสอบและติดตามตัว จากการตรวจสอบพบว่าได้เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยใช้หนังสือเดินทางเลขที่ ๑๓AF๐๑๐๒๖๔ ระบุในหนังสือเดินทางชื่อ MR.SAHIME MOHAMMAD ASLAM จึงดำเนินการสืบสวน ติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง

​ จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒๕ ก.ค. ๖๑ เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ๑ กก.สายตรวจ ,เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้สืบสวนติดตามตัวจนทราบว่ามีชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับ MR.Momade Assif Abdul SATAR ปรากฏตัวอยู่ที่ ล็อบบี้โรงแรมมาริออท ซ.สุขุมวิทย ๕๗ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งชายดังกล่าวไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือชายดังกล่าวแล้วส่งไปตรวจพิสูจน์ ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายพิมพ์นิ้วมือตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือทั้ง ๑๐ นิ้ว และลงความคิดว่า ลายพิมพ์นิ้วมือของชายดังกล่าวนั้น เป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายแดง (Red Notice) ของ INTERPOL ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำเข้าลักษณะเป็นบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๒(๗) จึงได้เสนอความเห็นไปยัง ผบช.สตม. เพื่อให้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ภายหลังจึงได้นำตัวไปยัง กก.๓ ศสส.สตม. เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
​ ทั้งนี้ทางการโมซัมบิกได้ยืนยันว่าระหว่างที่ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศในระยะเวลาประมาณ ๓ ปี ยังได้มีการสั่งการให้องค์กรของตนดำเนินการลักพาตัวและเรียกค่าไถ่บุคคลต่างๆ ทั้งในประเทศโมซัมบิกและอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา และยังแจ้งอีกว่าผู้ต้องหารายนี้ เป็นระดับหัวหน้าขององค์กร จะสั่งการให้ลูกน้องไปลักพาตัวนักธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศโมซัมบิกเพื่อไปเรียกค่าไถ่ โดยแต่ละครั้งจะเรียกค่าไถ่เป็นเงินประมาณ ๓,๐๐๐,๐๐๐ USD. หรือประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งถ้าไม่ได้รับเงินก็จะดำเนินการฆาตกรรมเหยื่อ โดยมีเหยื่อถูกฆาตกรรมไปแล้ว จำนวน ๒ ราย อีกทั้งยังได้มีการทำร้ายและฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ของทางการโมซัมบิกและครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเอาผิดกับองค์กรนี้ ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนเป็นอย่างมาก

CR. @ โอ๋ สมาคมคนข่าว ผู้สื่อข่าว นิวส์รีพอร์ต @ รายงาน

Loading