วันจันทร์, 18 พฤศจิกายน 2567

!!ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมขบวนการแชร์ลูกโซ่”

29 ก.ค. 2018
24

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมขบวนการแชร์ลูกโซ่

วันที่ 29 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้นำเงินมาลงทุน การันตีผลตอบแทนสูง เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พรก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานงานกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดี

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้มี นายภาษุ บางนงค์ และ นางสาววรรณทนีย์ เนียมสุวรรณ เป็นตัวการ มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน จะแบ่งหน้าที่ทำงานเป็นทีม ใช้วิธีโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ FACEBOOK LINE หรือให้ผู้ร่วมขบวนการโทรนัดชักชวนคนรู้จัก ให้มาฟังการลงทุนมีให้ผลตอบแทนสูง ตามสถานที่ต่างๆ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ กทม. ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ พิษณุโลก ฯลฯ เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร จนขยายใหญ่ประชุมในโรงแรมใหญ่ๆ

โดยนำเสนอว่า บริษัท World BitTrade จดทะเบียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขาย หรือ เก็งกำไรราคาของ CryptoCurrency หรือสินทรัพย์ดิจิตัล อาทิ Bitcion (บิทคอยน์) Ethereum (อีเทอเรี่ยม) เป็นต้น บริษัทมีความเชี่ยวชาญสามารถทำกำไรมหาศาล และมีระบบให้บุคคลทั่วไปสามารถนำเงินมาลงทุนกับ บริษัท โดยไม่มีความเสี่ยง แล้วบริษัทจะนำเงินของผู้ลงทุนไปดำเนินธุรกิจ และนำกำไรมาแบ่งให้กับผู้ลงทุน โดยการันตีรายได้วันล่ะ 1% ของเงินลงทุน สูงสุด 300 วัน หรือ 300% และยังมีรายได้จากการชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนอีก 10% ของเงินลงทุน และรายได้จากแผนไบนารี่จับคู่อีก 10% ทำให้เกิดการชักชวนกันต่อไปเรื่อยๆ
ระบบดังกล่าวมีเว็ปไซด์ชื่อ www.worldbittrade.biz ให้ผู้ลงทุนสมารถเข้าระบบ ดูจำนวนเงินลงทุน และผลตอบแทนที่ได้รับทุกวัน ผู้เสียหายบางคนเมื่อเห็นรายได้ในระบบเข้าทุกวันก็ยิ่งเชื่อมั่น หาเงินมาลงทุนเพิ่มอีก และไปชักชวนผู้อื่นมาลงทุนต่อ เมื่อผู้ลงทุนเริ่มมีการขอถอนเงินออกจากระบบ กลุ่มมิจฉาชีพก็บ่ายเบี่ยง ไม่สามารถถอนเงินได้ และปิดเว็ปไซด์ไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

จากการตรวจสอบ บริษัท WorldBitTrade ไม่มีการจดทะเบียนพานิชยกิจในประเทศไทย ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการจาก กลต. และ สคบ. แต่อย่างใด
พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ โดยศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการกลุ่มนี้ในชั้นต้น 8 ราย ในข้อหา “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง” คาดว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องกระทำความผิดอีกหลายราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2561 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งสิ้น 6 คน ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างคุมขังคดีอื่น พนักงานสอบสวนจะได้อายัดตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กฎหมายที่เกี่ยวข้องพระราชกำหนด การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗
มาตรา ๔ ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปว่า ในการกู้ยืมเงิน ตนหรือบุคคลใดจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไปผู้นั้นกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

มาตรา ๑๒ ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๔ หรือมาตรา ๕ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

CR. @ โอ๋ สมาคมคนข่าว ผู้สื่อข่าว นิวส์รีพอร์ต @ รายงาน

Loading