จันทบุรี-หนุ่มเครียด คดีถูกรุมทำร้ายร่างกายไม่คืบหน้า แถมตกเป็นผู้ต้องหา เอามีดจี้คอตัวเอง ร้องขอความเป็นธรรมหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี รองผู้ว่าฯใช้วาจาอ่อนหวานเกลี้ยกล่อม
วันนี้ ( 2 ส.ค.61 ) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงาน และ มีประชาชนมาติดต่อราชการอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลา 09.30 น.ได้เกิดเหตุระทึกหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โดยมีชาววัยกลางคนอายุประมาณ 40 กว่าปี ขับรถยนต์กระบะมาสด้า สีน้ำตาลดำ หมายเลขทะเบียน กน.8196 จันทบุรี ใช้มีดจี้คอตัวเองบนท้ายรถกระบะ หน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรีท่ามกลางความหวาดผวาของเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาติดต่อราชการศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โดย อส.รักษาการณ์ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์พร้อมเกลี้ยกล่อม แต่ผู้ร้องเรียน ภายหลังทราบชื่อว่า นาย อิศเรศ ลัดลอย ยังคงเอามีดจี้เหมือนจะทำร้ายตัวเอง และตะโกนร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากตนยเองถูกรุมทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่ วันที่ 30 กันยายน 2560 ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอขลุง แต่ กลับกลายเป็นว่าตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดี เป็นผู้ต้องหา ทั้ง ๆ ที่ในร้านที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ อีกทั้งยังหวาดระแวงคู่กรณีทำให้ครอบครัวอยู่ไม่มีความสุข ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินหน้าร้องไปที่ตำรวจภูธรภาค 2 และศูนย์ดำรงธรรมมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทำให้เกิดอาการเครียด และหวาดระแวงจึงตัดสินใจใช้มีดจี้คอตัวเอง เพื่อมาขอพบ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ช่วยเหลือ ภายหลังประมาณ 30 นาที นางกานต์เปรมปรีดิ์ ชิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับมอบหมายจาก นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางมาเกลี้ยกล่อม ด้วยตนเอง พร้อมรับปากจะดูแลเรื่องที่นายอิศเรศ ลัดลอย ร้องขอความเป็นธรรมอย่างดีที่สุด ทำให้นายอิศเรศ ลัดลอย มีท่าทางอ่อนลง และยอมวางมีดที่จี้ทำร้ายตัวเอง ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีใช้เวลาเกลี้ยกล่อมประมาณ 3 นาที เหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และได้เชิญนายอิศเรศ ลัดลอย ไปพูด – คุย รับฟังปัญหาเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไปเหตุการณ์จึงสงบลง
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก