อ่างทอง อดีตรองผู้จัดการ ผันตัวเองปลูกเมล่อนขายสร้างรายได้เดือนละกว่าแสนบาท
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอดีตรองผู้จัดการพร้อมภรรยา ลาออกจาการทำงานที่มีรายได้ประจำ ผันตัวเองมาทำนาแต่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ จนไม่สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ จึงปรับเปลี่ยนผืนนาหมู่ที่ 6 ตำบลโพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง มาทำการเกษตรแบบผสมผสาน ตามนโยบายของรัฐบาล หลังราคาข้าวตกต่ำ ต่อเนื่อง โดยหันมาปลูกพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นอย่างเช่น เมล่อน แคนตาลูป ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตนำออกขายสร้างรายได้เดือนละกว่าแสนบาท ซึ่งผลเมล่อนยังเป็นที่ต้องการของตลาดมีลูกค้าจองสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก จนผลผลิตออกสู่ตลาดแทบไม่ทัน แถมยังราคาดีกว่าการทำนาปลูกข้าว โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้วันขึ้นปีใหม่ มีลูกค้าสั่งจองเมล่อนเพื่อเป็นของขวัญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่
นายลำพัน มหาสมบัติ อายุ 43 ปี กล่าวว่า ตนเคยทำงานเป็นถึง รอง ผจก.มีรายได้ 50,000 กว่าบาท แต่รู้สึกเบื่อจึงลาออกทำการเกษตร เริ่มแรกทำนาแต่ราคาข้าวตกต่ำจนไม่สามารถจะยืนอยู่ได้ จึงปรับพื้นนา 4 ไร่หันมาปลูกเมล่อนพันธุ์อัลฟ่าเนื้อสีส้ม และกรีนเน็ต ที 778 ส่วนแคนตาลูปพันธุ์สีทอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 60–75 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งออกขายให้กับลูกค้าที่สั่งจองไว้ล่วงหน้าได้ โดยเก็บผลผลิตได้เพียงวันละ 300–400 กิโลกรัม ขายราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 70 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่ได้สั่งจองเอาไว้
นายสมพิศ พูลสวัสดิ์ กล่าวว่าเกษตรกรรายนี้เดิมทำนา แต่ปรากฎว่าการทำนามีปัญหาตลอดอย่างเช่นราคาข้าวตกต่ำ ต้นทุนสูง และใช้พื้นที่มาก คุณสุดา มหาสมบัติ (ภรรยาคุณลำพัน)เป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้า ได้รับนโยบายของรัฐบาล และจังหวัดอ่างทอง หันมาปลูกพืชผักปลอดภัยโดยเฉพาะการปลูกเมล่อน เป็นการปลูกเมล่อนนอกมุ้งที่ได้มาตราฐาน มีความหวานได้คุณภาพ มีตลาดแน่นอน ทำให้มีรายได้มากกว่าการทำนาอีกด้วย
สุรชัย ผลจันทร์/อ่างทอง/089-6066364
