ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ห้อง 101
วันที่ 7 สิงหาคม 2561 เวลา 11.00 น. วันนี้นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย และ สมาชิกกลุ่มสามมิตร พร้อมผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่จำนวน100 คน มาร้องทุกข์ต่อท่านพลตำรวจตรี รมย์สิทธิ วีริยาสรร เลขาธิการการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ดำเนินการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามมาตรา 3 (3) หลังผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ลงทุนโดยผู้เสียหายมี 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย ผู้เสียหายจากโอดีแคปิตอล และ พวก โดย ปปง. ได้มีการอายัดเงินไว้ประมาณ 100 กว่าล้านบาท โดย ผู้เสียหายชื่อ พงษธร สอนอาจ อายุ 38 ปี อาชีพวิศวกร ผู้เสียหายจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ศูนย์บาท ถูกหลอกลวงไปจำนวน 1.5 ล้านบาท โดยหลอกลวงชวนให้ลงทุนโดยหลอกให้กู้ซื้อคอนโดจำนวน 3 ห้อง ซึ่งวันนี้ก็ต้องมานั่งผ่อนคอนโด โดยเงินส่วนต่างได้ลงทุนในโอดีแคปิตอล แต่สุดท้ายถูกหลอกจึงเดือดร้อนต้องมาผ่อนคอนโด เพราะมิจฉาชีพหลอกว่าเงินที่ลงทุนโอดีแคปิตอลจะให้หุ้น โดยถือใบหุ้นกำมะลอมานาน 2 ปี จึงรู้ว่าตนเองถูกหลอกจึงเดินทางมาร้องทุกข์กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ส่วนผู้เสียหายชื่อเล่น ซาร่า อายุ 28 ปี อาชีพ เจ้าของธุรกิจทำโปรแกรมเมอร์ โดนกลุ่มโอดีแคปิตอลหลอกลวงให้ลงทุน 3.4 ล้านบาท โดยชวนตั้งแต่ปี 57 โดยมีนายวัลลภ เป็นคนมาชวนให้ลงทุน forex ของโอดีแคปิตอล โดยมีผู้จัดการลงทุนทำการเทรดให้ จะได้ปันผล ร้อยละ2-10% ต่อเดือน แต่ตอนลงทุนจะได้ 4-7 % ต่อเดือน เคยไปออฟฟิศ ที่มาเลเซียใช่ชื่อ ยูสไรท์ ขายพวกอาหารเสริม ผู้เสียหายก็ถามว่าทำไมไม่ใช่ชื่อโอดีแคปิตอล โดยพวกแม่ทีมบอกเป็นตึกเดียวกัน แต่ตนเองเห็นมีรถแข่งโอดี จอดอยู่ในตึก วันนี้ตนเองนำเงินพ่อแม่ และ เงินเดือนมาลงทุน จึงเดือดร้อน ตอนนี้หน้าเวปไซต์ ก็ถูกปิดไปจึงรีบเดินทางมาร้องทุกข์ต่อเลขาธิการปปง. โดยที่เจ็บช้ำมาคือได้รับจดหมายขู่จากนายชินวัตร และ เท็ดดี้ ว่าให้ไปถอนแจ้งความ ทั้งที่ก่อนหน้าเคยถามชินวัตร ว่าจะรับซื้อหุ้นคืนมั้ยในช่วงปี 2560 ว่าชินวัตรจะรับซื้อคืนหรือไม่ โดยตนเองลงทุนหุ้นละ 35 บาท แต่นายชินวัตร จะรับซื้อคืนเพียงหุ้นละ 1 บาทจึงรู้ตนเองว่าถูกหลอกจึงได้แจ้งความไว้ที่ ปอศ.
ผู้เสียหายกลุ่มที่สอง คดีบริษัท9topup ผู้เสียหายเดินทางมาเขียนคำร้องทุกข์ต่อเลขาธิการปปง. ให้ประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อนำสำนวนการสอบปากคำในคดีอาญา หลังศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จึงนำข้อมูลให้ปปง ใช้อำนาจตามมาตรา 3 (3) เพื่อติดตามทรัพย์สิน และเงินมาคืนให้แก่ผู้เสียหายจำนวน 621 คน โดยผู้เสียหาย นาง กัญญาภา ถูกหลอกลวงโดยให้ลงทุนกับบริษัทดังกล่าว ตนเองสูญเงินไปเจ็ดแสนบาท ตนเองเดือดร้อนมาก อาชีพตนเองขายน้ำ เงินเก็บทั้งชีวิต เอามาลงทุนเพราะเชื่อคนรู้จัก จึงอยากฝากเตือนประชาชนคนอื่นอย่าได้หลงเชื่อ
กลุ่มที่ 3 คือ คดีแชร์เวิลด์บิทเทรด ผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ลงทุนในเงินดิจิตอลบิทคอย โดยมีการการันตีผลตอบแทนให้ร้อยละ 1 ต่อวัน ผู้เสียหายชื่อต่าย อายุ 55 ปี ผู้เสียหายบอกว่าหลงเชื่อข้อมูลในไลน์ และ มิจฉาชีพมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ แบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน มีการจัดประชุม ล้างสมอง ทำลายความคิด เกาะป้องกันตนเองให้หายไป โดยใช้ (ความอยากได้อยากมี ) มาทำให้ตนหลงเชื่อ วันนี้ตนเองอยากจะฝากเตือน ให้ประชาชนอย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการลงทุนประเภทดังกล่าว ที่มีค่าแนะนำการชักชวน การการันตีผลตอบแทน ขอให้อย่าลงทุนเด็ดขาดไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อแบบตน
นายสามารถ กล่าวเพิ่มว่า “ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อขอให้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อปปง. เพราะตอนนี้มาตรา 49 วรรคท้าย พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเป็น 1 ใน 26 ความผิดมูลฐานฟอกเงิน ที่ทาง ปปง จะติดตามทรัพย์สินมาคืนแก่ผู้เสียหาย เน้นย้ำ ขอให้ผู้เสียหายโอดีแคปปิตอลเดินทางมาร้องขอคุ้มครองสิทธิ ภายใน 16 สิงหาคม 2561 ไม่งั้นจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดินจะตกเป็นของแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไขด้วยกฏหมายฟอกเงิน ดังนั้นขอให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารมาร้องคุ้มครองสิทธิได้โดยเตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ,สำเนาทะเบียนบ้าน , สำเนาการโอนเงิน , เอกสารการเดินบัญชีธนาคารช่วงลงทุน , เอกสารการชักชวนให้ร่วมลงทุน วันนี้ขอให้ผู้เสียหายร่วมสามัคคีกันไล่ล่ามิจฉาชีพที่หลอกลวงไม่ให้ไปหลอกใครอีก วันนี้ทุกคนต้องมี “ จิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจหยุดวงจรแชร์ลูกโซ่ “ เพื่อให้คนไทยต้องหลุดพ้นจากการหลอกลวง เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตแบบมั่นคง มั่นคั่ง และ ยั่งยืน “โดยช่วงท้ายผู้เสียหายได้นำดอกกุหลาบมามอบให้ท่านประธานสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ช่วยเหลือผู้เสียหายทุกคนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเห็นผลงานและติดตามผลงานท่านมานาน
Cr. @ โอ๋ สมาคมคนข่าว ผู้สื่อข่าว นิวส์รีพอร์ต @ รายงาน
