ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 61 เวลา 12.30 น. ที่บริเวณหน้าห้อง กก.สืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมกำลังชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ร่วมกันแถลงข่าว การตรวจยึดทรัพย์ของคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ของพ่อค้าประชาชน มานับครั้งไม่ถ้วน โดยมีเจ้าทุกข์และผู้เสียหายต่างเดินทางมาดูของกลางกันจำนวนมาก ส่วนตัวผู้ต้องหาสามีภรรยา ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ผู้การฯสั่งไล่ล่าตัวให้ได้ถือเป็นภัยต่อสังคม
พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 ส.ค 61 เวลาประมาณ 09.30 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร อาคารพาณิชย์เลขที่ 99/14 ถนนปทุมกรุงเทพ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองปทุมธานี ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นทองรูปพรรณหลายรายการ น้ำหนักรวม 20 บาท เงินสด จำนวน 30,000 บาท พระเครื่องเลี่ยมทอง บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต โดยผู้เสียหายคือ น.ส.รสสุคนธ์ วิมูลชาติ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน
พ.ต.ท.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า พฤติการณ์ของคนร้ายในคดีนี้ ได้ร่วมกันก่อเหตุ 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดำ ติดป้ายทะเบียนผ้ายแดง เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า โดยใช้อุบายทำทีเป็นลูกค้า เข้ามาชวนเจ้าของร้านพูดคุยตีสนิท แล้วแกล้งสั่งซื้อของจำนวนมาก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นก็ฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้า และไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินของตนเอง ก่อนจะลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป โดยลักษณะดังกล่าว พบว่าคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในท้องที่ต่างๆ จึงถือเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน และมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพสุจริตของประชาชน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นำกำลังชุดสืบสวน กก.สส. ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกับ ชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้เร่งรัดสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายในคดีให้ได้โดยเร็ว จึงพยายามเกะรอยตามพยานหลักฐานและอาศัยพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และ น.ส.อุษา เกษมณี หรือ นางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านเลขที่ 222/150 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยการก่อเหตุมักจะมีการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ หลายคัน เช่น รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดำ ติดป้ายทะเบียนป้ายแดง ศ-4430 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 7กฆ 5515 กรุงเทพมหานคร และ รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี่ สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร
ต่อมาเมื่อวานนี้ (9 ส.ค. 61) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหา ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผลการตรวจค้นพบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดำ ติดป้ายทะเบียนป้ายแดง ศ-4430 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 7กฆ 5515 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 55 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต 10 ใบ นาฬิกาข้อมือ จำนวน 20 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 55 ใบ เครื่องประดับ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู วัตถุมงคล พระเครื่อง จำนวนมาก บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ บัตรประจำตัวข้าราชการ จำนวน 18 ใบ ตั๋วรับจำนำ ระบุชื่อผู้ต้องหาเป็นผู้จำนำ จำนวน 18 ใบ รวมของกลางทั้งสิ้น 137 รายการ ซึ่งทรัพย์สินข้างต้น มีเหตุต้องสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จึงได้ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนจากการขยายผล ส่วนคนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้พร้อมรถยนต์รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี่ สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายทั้งคู่เคยก่อเหตุในหลายท้องที่ เช่น ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และ กรุงเทพมหานคร จึงขอประชาสัมพันธ์ ว่าหากผู้ใดสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้ก่อเหตุลักทรัพย์ สามารถมาตรวจสอบทรัพย์สินและประสานข้อมูลได้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี
สมยศ แสงมณี / ปทุมธานี