ตร..ปส.รวบต่อ หนองเสือ แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ย่านปทุมธานี”

26 ก.ย. 2018
21

ไม่รอด ตำรวจปส.รวบต่อ หนองเสือ แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ย่านปทุมธานีพร้อมยาบ้ากว่า 8 หมื่นเม็ด อาวุธปืน กระสุนจำนวนมาก

วันที่ 24 ก.ย. 2561 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.กิตติ สะเภาทอง ผบก.ปส.4 พล.ต.วัฒนะ พลจันทร์ ผช.ผบ.ศรภ,พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.พิชัย ธนาอัศวพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล รอง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.วีระ ฮะทะโชติ สว.กก.1 บก.ปส.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ศรภ.กอง 12 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสมพร หรือนุ่น อุ่นสกุล อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.7 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยานายนัฐพล หรือต่อ เณรศิริ อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 4/7 ม.6 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จว.ปทุมธานี นายรังสิมันต์ หรือต้นตาล แผงเพ็ชร์ อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 79/1049 หมู่บ้านพรธิสาร 5 ม.1 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานีพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 42 รวมประมาณ 84,024 เม็ดไอซ์น้ำหนักประมาณ108.7 กรัมคีตามีน น้ำหนักประมาณ10.7 กรัมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่องรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 1 ฒง 1551 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะเชฟโรเลต สีแดง-ดำหมายเลขทะเบียน บย 5038 พระนครศรีอยุธยาอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.Glock 19 หมายเลขประจำปืน LNK180 หมายเลขทะเบียนปืน กท 5116212 กระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 60 นัดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.CZ หมายเลขประจำปืน A596212 หมายเลขทะเบียนปืน กท 52100707 พร้อมกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 13 นัดอาวุธปืนพกสั้นขนาด.22 ยี่ห้อ Beretta หมายเลขประจำปืน MOD.74 พร้อมกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 16 นัดอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์กระสุนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 5 นัดกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 นัดซองปืนพกในจำนวน 2 ซองและของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ
พล.ต.ต.กิตติ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายนุ่นได้โทรศัพท์ติดต่อสายลับแจ้งว่ามียาบ้าต้องการจำหน่ายจำนวนมากให้กับสายลับจำนวน 50 มัดในราคามัดละ 30,000 บาทรวมเป็นเงิน1,500,000 บาท(หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน)หากตกลงเรียบร้อยก็จะนัดส่งมอบยาบ้าและส่งเงินกันในวันที่ 24 ก.ย.61ในเขตพื้นที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยาโดยให้สายลับเตรียมเงินแบ่งเป็น 2 กระเป๋ากระเป๋าใบแรกให้ใส่เงิน 900,000 บาทส่วนกระเป๋าใบที่สองให้ใส่เงิน 600,000 บาทรวมทั้งหมด 1,500,000 บาท

พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่าได้ประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมสินธิกำลังร่วมกับทหาร ศรภ.กอง 12 ร่วมกันวางแผนจับกุมโดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดโดยกำลังชุดที่ 1 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอำพรางตัวไปพร้อมกับสายลับนำเงินจำนวน 1,500,000 บาทเดินทางไปพบกับนายนุ่นที่ร้านอาหารข้าวแกงบ้านสวน 2 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยาส่วนกำลังชุดที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้อำพรางเป็นลูกน้องของสายลับทำหน้าที่เดินทางไปรับยาเสพติดจนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น.นายนุ่นได้ขับรถยนต์กระบะเชฟโรเลตสีแดง-ดำหมายเลขทะเบียนบย- 5038 พระนครศรีอยุธยามาพบสายลับภายในร้านอาหารบ้านสวน 2 เพื่อดูเงินค่ายาบ้าจากนั้นนายนุ่นได้โทรศัพท์บอกให้นายนัฐพลขับรถยนต์อีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 1 ฒง 1551 กรุงเทพมหานครเข้ามาพบและนายนุ่นจึงได้ชักชวนให้สายลับและนายนัฐพลไปที่ปั้มน้ำมันปตท.สาขาวังน้อย ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยานายนัฐพลได้โทรศัพท์แจ้งให้ลูกพี่ชื่อ Tin put (หรืออาจารย์ชัย)ทางไลน์ และทางโทรศัพท์เพื่อให้นำยาบ้าออกมาวางไว้ที่ริมถนนบริเวณใต้สะพานลอยฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯถนนรังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี เมื่อเจ้าหน้าที่อำพรางได้รับแจ้งจึงได้เดินทางไปรับยาบ้าที่บริเวณจุดนัดหมายพบเห็นถุงพลาสติกสีดำวางอยู่ที่บริเวณดังกล่าวจึงได้ตรวจสอบภายในถุงพลาสติกสีดำพบเป็นยาบ้าจริงจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางยาเสพติดดังกล่าวไว้ พร้อมกับได้โทรศัพท์แจ้งว่าได้รับยาบ้าเรียบร้อยแล้วจึงได้แจ้งให้สายลับและเจ้าหน้าที่อำพรางนำกระเป๋าเงินล่อซื้อจำนวน 2 กระเป๋ารวมเป็นเงิน1,500,000 บาทมอบให้นายนุ่นและนายนัฐพลได้เลยพร้อมกับได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ซุ่มอำพรางตัวอยู่ เข้าแสดงตัวและทำการจับกุมตัวนายนุ่นระหว่างนั้นนายนัฐพลได้ไหวตัววิ่งขึ้นรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒง 1551 กรุงเทพมหานครและพยายามขับหลบหนี โดยถอยหลังชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่จนเสียหายไม่สามารถไปต่อได้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนัฐพลไว้ได้ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Glock 19 พร้อมซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม.กระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 60 นัด คีตามีน น้ำหนักประมาณ10.7 กรัมจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายนัฐพลขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 79/1049 ม.1ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายรังสิมันต์เมื่อไปถึงหน้าบ้านนายนัฐพลเห็นนายรังสิมันต์ยืนอยู่จึงได้ชี้ยืนยันว่าเป็นผู้ที่ตนติดต่อเรื่องยาเสพติดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงได้เข้าแสดงตัวพร้อมกับขอทำการตรวจค้นบ้านพบของกลางยาบ้า,ไอซ์ และอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและอื่นๆอีกหลายรายการเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด

พ.ต.ท.ธิติสรรค์ กล่าวว่าจากการสอบสวน นายนุ่นและนายนัฐพลให้การรับสารภาพว่าตนเองได้ติดต่อขายยาบ้าจำนวน 50 มัดราคามัดละ 30,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,500,000 บาทโดยนัดพบกันที่ร้านอาหารบ้านสวน 2 ถ้าหากงานนี้สำเร็จตนเองจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 20,000 บาท
ด้านนายนัฐพล ให้การรับสารภาพว่านายนุ่นได้โทรศัพท์ติดตนว่ามีลูกค้าต้องการที่จะซื้อยาบ้า 50 มัดในราคามัดละ18,000 บาทรวมเป็นเงิน 900,000 บาท ตนจึงได้ติดต่อนาย Tin put ทางไลน์ หรืออาจารย์ชัยจากนั้นนายTin put หรืออาจารย์ชัยทางไลน์ หากงานนี้สำเร็จตนจะได้เงินค่าจ้างประมาณ 50,000 บาท
ส่วน นายรังสิมันต์ ให้การรับสารภาพว่าตนมีหน้าที่ดูงานและเฝ้างานที่ลูกพี่ชื่อนายตู่ให้นำยาบ้าจำนวน 40 มัดไปทิ้งไว้ที่บริเวณพุ่มหญ้าหลังกำแพงท้ายซอยหมู่บ้านพรธิสาร 5 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานีหากงานเรียบร้อยตนเองก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ นายนัฐพลว่า“ มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเคหรือคีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ นายรังสิมันต์ ว่า“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน.กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.4 บช.ปส.เพื่อสอบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าว อาชญากรรม

Loading