ตำรวจหาดใหญ่เร่งหาเบาะแสติดตามไล่ล่าคนร้ายฉกทองหนัก 9 บาทเมื่อวานนี้พบเส้นทางหลบหนีแล้วตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมั่นใจได้ตัวในเร็วๆนี้ ด้านร้านทองเกิดเหตุกลับมาเปิดบริการตามปกติยืนยันไม่ได้ประมาทติดตั้งระบบเซนเซอร์อัตโนมัติกระจกนิรภัยและลูกกรงเหล็กรวมทั้งพนักงานก็พบพิรุธของคนร้ายก่อนก่อเหตุ
ความคืบหน้าคนร้ายทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปชิงสร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 3 บาทไป 3 เส้น รวมน้ำหนัก 9บาทมูลค่าเกือบ 2 แสนบาท เหตุเกิดที่ร้านทองห้างทองรัตนมณี ย่านตลาดคลองเตย เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้ ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายไว้ค่อนข้างชัดเจน
ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางชุดสืบสวนของ สภ.หาดใหญ่ กำลังเร่งหาเบาะแสของคนร้ายโดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีพบว่าระหว่างทางคนร้ายได้จอดรถและสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า และขับรถจักรยานยนต์ลัดเลาะไปตามเส้นทางลัดออกไปยังถนนลพบุรีราเมศวร์ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองสายหลักระหว่าง อ.หาดใหญ่กับ อ.เมืองสงขลา
นอกจากนี้ยังรอผลการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายจากเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคนร้ายว่าตรงกับใครบ้าง ซึ่งจากเบาะแสและรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่ค่อนข้างชัดเจนรวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมได้ในไม่ช้า
ส่วนบรรยากาศที่ร้านทองรัตนมณี ในวันนี้ได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้วแม้ว่าประตูยังพังเสียหายซึ่งจะซ่อมแซมในวันนี้ นาย กฤษณ์ รัตนมณี อายุ 32 ปี ผู้จัดการร้านเปิดเผยว่า ทางร้านไม่ได้ประมาทและมีระบบป้องกันความปลอดภัยเป็นอย่างดีทั้งประตูระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ และกระจกนิรภัย และติดตั้งลูกกรงเหล็กภายในร้าน รวมทั้งช่วงเกิดเหตุที่ร้ายเดินเข้ามาพนักงานก็พบพิรุธโดยให้ชายคนนี้ถอดหมวกแก๊ปและแว่นตาดำ แต่ชายคนนี้ก็แค่ถอดเข้าถอดออก ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุฉกสร้อยคอทองคำออกจากร้านไปโดยดึงประตูกระจกนิรภัยจนแตกและสามารถออกไปได้ และหลังจากนี้ก็จะปรับรูปแบบการขายโดยจะให้ลูกค้าดูที่จะเส้นเพื่อความปลอดภัย
นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์/หาดใหญ่/จ.สงขลา
