“ศปอส.ตร.!!สนธิกำลัง ปฏิบัติการ !!“ลำน้ำพอง”ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งผลการป้องกันปราบปรามการอาชญากรรมที่ปรากฏใน สื่อออนไลน์ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีผ่านเพจ ศปอส.ตร.ว่ามีชายมีพฤติกรรมล่อลวง บังคับเด็กชายไปกระทำชำเราแล้วถ่ายคลิป Blackmail มีเด็กตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ในเขต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ต่อมาได้สืบสวนทางออนไลน์ทราบว่าชายดังกล่าวตัดต่อรูปเด็กหนุ่มหน้าตาดีนำไปเป็นรูปโปรไฟล์ในสื่อโซเชียล Facebook และ แอพพลิเคชั่น Blues ซึ่งเป็น แอพพลิเคชั่น เฉพาะกลุ่มชายรักชายสามารถค้นหาเพื่อนใกล้เคียงได้ ต่อมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง/รอง ผอ.ศปอส.ตร. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รรท.ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว. อุดรธานี/รอง ผอ.ศปอส.ตร. จัดทีมงานสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ต่อมาจากการลงพื้นที่ได้สืบทราบข้อมูลว่ามีเด็กชาย อายุ 14 ปี เคยถูกล่อลวงมากระทำชำเราทางทวารหนัก โดยชายดังกล่าวใช้รูปเด็กชายหน้าตาดีเข้ามาทัก พูดคุยผ่านทางแอพพลิเคชั่น Blues เพื่อตีสนิทแล้วชักชวนให้ส่งรูปอวัยวะเพศของตนให้ จากนั้นได้นัดเจอกัน เมื่อเด็กมาเจอพบว่าเป็นชายมีอายุไม่ต้องการพูดคุยติดต่อ จึงข่มขู่ว่าจะแชร์รูปอวัยวะเพศของเด็กให้อับอาย และบังคับข่มขืนกระทำชำเราเด็กในรถยนต์ จากการสืบสวนทางออนไลน์ทราบว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวคือ นายจักรกฤษณ์ ค่อมสิงห์ อายุ 43 ปี และพบข้อมูลว่ามีเด็กชายอายุ 13-18 ปี ถูกข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักและถูกบังคับให้อมอวัยวะเพศอีกมากกว่า 70 ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับชายคนดังกล่าวและศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 6 พ.ย.61
ในวันนี้ (8 พ.ย.61) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง/รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รรท.รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท. ผบก. ตม.3, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร., พ.ต.อ.อธิศวิศ กมลรัตน์ รอง ผบก.ปคม. ศปอส.ตร. นำโดย พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท. ผบก.ภ.จว.อุดรธานี/รอง ผอ.ศปอส. ตร. บูรณาการร่วมกับ สตม. บช.ทท. ภ.4 บก.ปคม. สภ.น้ำพอง และ ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ทำการจับกุม นายจักรกฤษณ์ ค่อมสิงห์ ส่ง สภ.น้ำพอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดตามเด็กผู้เสียหายซึ่งไม่กล้าเข้าแจ้งความอีกเป็นจำนวนมาก และพามาแจ้งความยัง สภ.น้ำพอง ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุโดยด่วนต่อไป ฝากไปยังพ่อแม่ พี่น้อง ประชาชน ที่มีลูกหลานเยาวชน ซึ่งเป็นวัยที่ยังอ่อนด้อยต่อประสบการณ์ ให้ช่วยสอดส่องการเข้าใช้สื่อโซเชียลของเด็ก ซึ่งเป็นช่องทางให้คนร้ายอาศัยความอ่อนด้อยดังกล่าวเข้าถึงตัวเด็กได้โดยง่ายและถูกหลอกให้ส่งภาพลามกอนาจารให้คนร้ายนำมาข่มขู่ จนถูกล่อลวงไปบังคับข่มขืนกระทำชำเรา
ฐานความผิดของ นายจักรกฤษณ์ ค่อมสิงห์
1. กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000 บาท ถึง 400,000 บาท
2. กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 6,000 บาท ถึง 30,000 บาท
5. ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือ ทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6.บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!!
#ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ 5 : พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ. 5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178!!
