วันอังคาร, 11 มีนาคม 2568

พิธีเปิดตัว!!เรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ระวาง 14,000 ทีอียู ONE COLUMBA“

ทลฉ.เนื้อหอม กลุ่ม ONE นำเรือแม่ขนาดใหญ่ “ONE COLUMBA” ขนาดระวาง 14,000 ทีอียู เข้าเทียบท่าเป็นครั้งแรก ณ ท่าเรือ D1 ก่อนนำเรือขนาดใหญ่เทียบท่าอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง มร.สตีเฟน แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการท่าเรือฮัทชิสัน ประเทศไทย มร.ชิโร ชะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมในพิธีเปิดตัวเรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ระวาง 14,000 ทีอียู “ONE COLUMBA” ที่เดินทางเข้าเทียบท่าครั้งแรก ณ ท่าเทียบเรือ บริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (D1) ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นครั้งแรก โดยมีแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายอาณัติ มัชฌิมา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ต ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเริ่มให้บริการท่าเทียบเรือ D ระยะที่ 1 เมื่อประมาณกลางปี 2018 โดยมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (quay crane) จำนวน 3 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าแบบล้อยาง (RTG) ของท่าเทียบเรือชุด D รวมจำนวน 8 คัน และติดตั้งระบบปฏิบัติการแบบกึ่งอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมการปฏิบัติงานระยะไกล (remote control) ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยในการปฏิบัติงานหน้าท่า และการปฏิบัติงานภายในลานวางตู้สินค้าให้มีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานยกขนตู้สินค้าให้แก่สายการเดินเรือ ผู้นำเข้า และผู้ส่งออกได้เป็นอย่างดี

ขณะที่เรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ระวาง 14,000 ทีอียู “ONE COLUMBA” เป็นสายเดินเรือที่เกิดจากการรวมกลุ่มของสายเดินเรือจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีความยาวเกือบ 400 เมตร

ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มีเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 367 เมตร เข้าเทียบท่า ณ เทียบเรือ D1 ท่าเรือแหลมฉบัง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในเรื่องโครสร้างพื้นฐาน และงานบริการที่ดีที่สามารถสร้างความมั่นให้แก่สายเดินเรือจากทั่วโลกในการเข้าใช้บริการ โดยเรือขนาดใหญ่สามารถเข้าใช้บริการ ณ ท่าเทียบเรือใดก็ได้ แต่ยังเลือกที่จะเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพ

ทั้งนี้ เรือลำดังกล่าวเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับตู้สินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 2,500 ทีอียู ก่อนจะเดินทางไปรับตู้สินค้าที่ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ โคลัมโบ และประเทศกลุ่มยุโรป จากนั้นจะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ ก่อนย้อนกลับมาใช้ท่าเรือแหลมฉบังอีกครั้ง โดยมีระยะเวลาในการเดินทางรวม 63 วัน นอกจากนั้น ยังจะมีเรือในกลุ่มดังกล่าวเข้าท่าเรือแหลมฉบังในทุกสัปดาห์อีกด้วย

ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีกลุ่มสายเดินเรือขนาดใหญ่ให้ความสนใจเข้าใช้บริการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นจำนวนมาก เช่น กลุ่ม ONE, CNA, CTN และสายเดินเรือ MAERSK

ภาพ/ข่าว สมชาย แก้วนุ่ม
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading