วันอาทิตย์, 6 ตุลาคม 2567

แม่ทัพภาค 4 พร้อม ผบช.ภ.9 ผวจ.นราธิวาส”ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยันคนร้ายต้องการสร้างความขัดแย้ง”

แม่ทัพภาค 4 ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยันคนร้ายต้องการสร้างความขัดแย้ง ขณะที่มีความคืบหน้าทางคดีพอสมควรแล้ว

ที่วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเกิดคนร้ายนับสิบคนพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามายิงพระสงฆ์ภายในวัดทำให้เจ้าอาวาสและพระลุกวัดมรณภาพ 2 รูป และบาดเจ็บอีก 2 รูป เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 18.ม.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ. 4 นาย อส.อำเภอสุไหงปาดี อีก 4 นาย ได้เข้ามาสมทบและทำการยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายจนล่าถอยเข้าไปในป่า จากนั้นได้เข้ามาสำรวจตามกุฏิภายในวันพบพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 1 รูป และที่บริเวณอาคารเอนกประสงค์มีเจ้าอาวาสและพระลูกวัดถูกยิงอีก 3 รูป จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจ ภาค 9 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงความคืบหน้าทางคดีและมาตรการการักษาความปลอดภัย

พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนในพื้นที่รับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวพุทธหรือมุสลิมซึ่งทางจุฬาราชมนตรีจะส่งผู้แทนมาเยี่ยมให้กำลังในแก่ประชาชนที่สถานที่แห่งนี้ สำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่นั้น จะเพิ่มมาตรการในการดูแลวัด ชุมชนที่ล่อแหลมพร้อมเสริมกำลังต่างๆเพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างที่สุด


ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน-สอบสวนได้มาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุในเบื้องต้นไปแล้ว และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่มีหมายจับได้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และยิง อส.ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และยังเป็นคนร้ายที่มีหมายจับติดตัวอยู่ และหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบด่านยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้น รอเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกส่วนหนึ่ง พยานบุคคลและอื่นๆมาประกอบคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร กลุ่มไหน

ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของการเยี่ยวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้นทางจังหวัดให้การเยี่ยวยาตามหลักเกณฑ์อย่างเต็มที่ โดยผู้เสียชีวิต 500,000 บาท บาดเจ็บ 50,000 บาท และทุบพลภาพ 500,000 บาท แต่เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่พี่น้องทั้งพุทธและมุสลิมไม่อยากให้เกิดขึ้น และรู้สุกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบ้านโคกโกมีพี่น้องชาวพุทธและพี่น้องมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสินติมานาน โดยในวันพรุ่งนี้ทางคณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดจะมาเยี่ยมคาราวะให้กำลังชาวบ้านและผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใข้เป็นเรื่องความขัดแย้งของศาสนา แต่เป็นเรื่องของการสร้างความแตกแยกระหว่างกันของกลุ่มคนร้าย และขอให้พี่น้องทุกคนเข็มแข็งและเชื่อมั่นว่าทางการจะสามารถดูแลและปกป้องพื้นที่ได้.

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส

Loading