วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

บิ๊กอวบ-บิ๊กนู-เดอะโอ๋!!!นำทีมแถลงปิดคดี”เมียจ้างวานฆ่าผัว”

27 ก.พ. 2019
21

บิ๊กอวบ บิ๊กนู เดอะโอ๋ !!! นำทีมแถลงปิดคดีเมียจ้างวานฆ่าผัวเสี่ยผู้รับเหมาพร้อมคุมมือปืนรับจ้างทำแผนฆ่า


วันนี้ 27 ก.พ.62 ที่ สภ.นครหลวง อ.นครหลวง จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส) พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาพ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง ผกก.สภ.นครหลวง และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นางสาวประภัสสร หรือจิ๋ม โท้ประยูร อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 50/62 ลงวันที่ 24 ก.พ.62 ข้อหา“ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น ด้วยการใช้ จ้างวาน”นายมนตรี หรือก็อต ชมถนอม อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่51/62ลงวันที่ 24ก.พ.62 ข้อหา“ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”นายตะวัน หรือบอล สีเหลือง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 52/๖๒ ลงวันที่ 25 ก.พ.62 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”นายสราวุฒ ทรงโฉม อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 50/62 ลงวันที่ 24 ก.พ.62 ข้อหา “เป็นผู้ใช้ จ้างวาน ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น” นายตะวัน หรือบอล สีเหลือง ทำหน้าที่ “ติดต่อมือปืนและจัดหาอาวุธปืน/รถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ”


พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ สภ.นครหลวง รับแจ้งเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุ ร่วมกันใช้อาวุธปืน ยิง นายธวัช สุขสังขาร อายุ 63 ปี เสียชีวิตขณะขับรถไปส่ง น.ส.ประภัสสร โท้ประยูร ภรรยาผู้ตาย ที่บริเวณด้านหน้า โรงเรียนนครหลวงอุดมรัชต์วิทยา หมู่ 5 ต.นครหลวง อ.นครหลวง จว.พระนครศรีอยุธยา


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุดังกล่าวมีจำนวน 6 คนจึงได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นางสาวประภัสสร โท้ประยูร ภรรยาผู้ตาย“เป็นผู้จ้างวานฆ่า” นายมนตรี ชมถนอม หรือ ก็อต “มือปืน” นายศราวุต เซ็นเจริญ หรือ ดีส “คนขับรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ” นายอภิชาติ มีสมกรณ์ หรือ ต้อม “ดูหน้างานและรับเงิน” และนาย ตะวัน สีเหลือง หรือ บอล “ติดต่อมือปืนพร้อมจัดหาอาวุธปืนและรถที่ใช้ก่อเหตุ” ส่วนนายสราวุฒ ทรงโฉม ลูกเขยที่กระทำผิดก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้ลงมือก่อเหตุจริง


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนต่อศาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในข้อหา “ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น ด้วยการใช้จ้างวาน,ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดย ไตร่ตรองไว้ก่อน”กระทั่งสามารถจับกุม น.ส.ประภัสสร, นายมนตรี, นายตะวัน และนายสราวุฒไว้ได้
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยนางสาวประภัสสร ให้การยอมรับว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยผู้ตายมักดื่มสุราจนมึนเมา ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย โดยก่อนหน้านี้เคยถูกขู่ฆ่าทั้งครอบครัว จึงติดต่อนายตะวัน ให้ว่าจ้างกลุ่มมือปืนมาก่อเหตุในราคา 200,000 บาท จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนายมนตรีมือปืนมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุท่ามกลางประชาชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์โดยรอบ ขณะที่นานมนตรีระบุว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ทั้งนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง และจะเร่งติดตามตัว นายศราวุต และนายอภิชาติ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน.สภ.นครหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อนึ่ง นายศราวุต หรือดีสฯ และนายอภิชาติ หรือต้อมฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้เร่งรัดทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งขบวนการ ทั้งผู้ใช้ จ้างวาน ผู้ติดต่อ รวมถึงกลุ่มมือปืนที่ได้ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้เป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ(ก่อเหตุกลางชุมชน/หน้าโรงเรียน)และโหดร้าย(ภรรยาจ้างวานฆ่าสามี) อันส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนโดยทั่วไป การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง


ในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ทีมข่าว  อาชญากรรม

Loading