รอง ผบ.ตร.นำทีมแถลงจับกุมผู้ต้องหาฆ่าปาดคอพยาบาลก่อนนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมยันไม่ใช้เรื่องชู้สาว
วันที่ 12 มี.ค.62 ที่สภ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.อําพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธีระวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอั๋น หรือน็อต ฟักศิริ อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.4 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 76/2562 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2562 ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมด้วยของกลาง สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทอง 2 สลึง 1 วง รถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็คซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 3777 พระนครศรีอยุธยา กระเป๋าหนังคาดเอว สีดำ-แดง 1 ใบ โทรศัพท์มือถือสีดำ 1 เครื่องและชุดในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในวัดลาดชิด ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จว.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มี.ค.62 ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวนายอั๋น หรือน็อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหามาทำแผนสถานที่จำลองเหตุการณ์ที่หน้า สภ.ภาชีโดยมีประชาชนและกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตมาร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.วันที่ 10 มี.ค.2562 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภาชีได้รับแจ้งเหตุว่ามีพลเมืองดีพบศพ ผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร.ที่บริเวณถนนซอยทางเข้าห้องเช่าตรงข้าม รพ.ภาชี ม.2 ต.ภาชี อ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบรุดไปตรวจยังจุดเกิดเหตุพร้อมผู้บังคับบัญชา พนักงานสอบสวนเวร แพทย์รพ.ภาชี เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปีอยู่บ้านเลขที่ 12/4 ม.5 ต.ระโสม อ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพยาบาลวิชาชีพประจำห้องฉุกเฉิน รพ.ภาชี ลักษณะศพถูกทำร้ายนอนคว่ำหน้า ศีรษะอยู่บริเวณเบาะด้านหลังคนขับ สภาพศพถูกของมีคมปาดที่บริเวณลำคอจำนวน 3 แห่ง และแทงที่บริเวณกลางหน้าอกอีกจำนวนหลายแผลและมีร่องรอยการต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมเก็บพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุส่งตรวจพิสูจน์และส่งศพไปชันสูตรพลิกศพที่สถานบันนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยว่าจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 23.30น.นางสาวศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ ได้ออกเวรจากห้องฉุกเฉินแล้วเดินมาขึ้นรถยนต์เก๋งส่วนตัวซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้ารพ.ภาชีจากนั้นได้ขับรถเพื่อจะออกจากรพ.ภาชีขณะที่จอดรถรอเลี้ยวซ้ายขึ้นถนนสุวรรณศรมุ่งหน้าหนองแคปรากฏว่านายอั๋น ฟักศิริ อายุ 33 ปี ซึ่งจอดรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียนบล3777 พระนครศรีอยุธยา ที่รออยู่ฝั่งตรงข้ามทางเข้า รพ.ภาชีได้เดินมาที่รถของ นางสาวศรีสุภางค์ แล้วได้ขึ้นรถไปด้วย จากนั้นรถของนางสาวศรีสุภางค์ ก็ได้ขับขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางหนองแค ต่อมาเวลาประมาณ 01.10 น. รถของนางสาวศรีสุภางค์ ก็ได้ขับเข้ามาจากทางด้านสี่แยกภาชีผ่านหน้ารพ.ภาชีแล้วเลี้ยวขวา เข้าไปจอดอยู่ที่ตรงบริเวณซอยตรงข้ามรพ.ภาชี และนายอั๋น ได้ลงจากรถของนางสาวศรีสุภางค์ ด้านฝั่งคนขับ แล้วเดินวนมาเช็คที่เปิดประตูฝั่งข้างคนขับจากนั้นได้เดินไปขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ตรงปากทางเข้ารพ.ภาชีแล้วขับหลบหนี ไปที่บ้านซึ่งอยู่แถววัดวิมลสุนทร ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของนายอั๋น ไว้ได้ในขณะที่เดินออกจากรถ ที่จุดเกิดเหตุ ภาพเส้นทางรถของนายอั๋น ก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้พยานดูแล้วและยืนยันว่าภาพชายในภาพวงจรปิดคือนายอั๋นและรถในกล้องวงจรปิดคือรถของนายอั๋นจากพยานหลักฐานซึ่งเชื่อว่านายอั๋นได้ก่อเหตุใช้ของมีคมหรือมีดปาดคอนางสาวศรีสุภางค์ จนเสียชีวิตจริงทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ร่วมกันบูรณาการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติ หมายจับนายอั๋นต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในข้อหา“ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งรัดติดตามจับกุมจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายอั๋นไว้ได้
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายอั๋นให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยสาเหตุจูงใจ ในการก่อเหตุเกิดเนื่องจากตนได้ขอยืมเงินจากนางสาวศรีสุภางค์จำนวนเงิน 3 พันบาทแต่ไม่ได้และยังถูกนางสาวศรีสุภางค์ด่าว่าจึงเกิดบันดาลโทสะจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจากนั้นตนได้นำสร้อยคอและแหวนของนางสาวศรีสุภางค์ไปขายที่ร้านทอง ใน เขต .อ.เสนา จว.พระนครศรีอยุธยาเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ซึ่งแท้จริงแล้วนายอั๋นจะไปยืมเงินคนชื่อ ตู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นตนได้พบนางสาวศรีสุภางค์เดินออกมาหลังจากออกเวรซึ่งตนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเนื่องจากตนเคยยืมเงินกันมาก่อนหน้านี้อีกทั้งยังเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ซึ่งตนไม่ได้มีการนัดหมายกันล่วงหน้าแม้แต่อย่างใดจนกระทั่งปรากฏตามภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งนี้ตนยอมรับสารภาพในส่วนของคดีเพียงเท่านั้นส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตายยังไม่ได้พูดถึงแม้แต่อย่างใด
ส่วนนายอั๋น หลังจากการสอบสวนอยู่ที่ภายในห้องสอบสวนได้มีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้โดยบอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่าตนได้สำนึกผิดและอยากจะกราบขอขมาศพนางสาวศรีสุภางค์และครอบครัวนางสาวศรีสุภางค์ที่ตนได้ลงมือก่อเหตุฆ่าในครั้งนี้ เบื้องต้น สามีของนางสาวศรีสุภางค์และครอบครัว ยืนยันไม่ยอมให้นายอั๋น มาขอขมาแล้วก็บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช้เป็นเรื่องชู้สาวตามที่มีข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้ โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายอั๋นไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทีมข่าว อาชญากรรม
