วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

สลด!!หนุ่มใหญ่วัย 60 ควบเก๋งหรูเสียหลักชนต้นไม้ดับ 2 บาดเจ็บ 1 ราย”

13 เม.ย. 2019
31

ชุมพร ควบเก๋งหรูหลับใน ตกถนนชนต้นไม้ดับ 2 สาหัส 1

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 13 เมษายน 2562 ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน พนักงานสอบสวนเวร สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกข้างทางชนต้นไม้ ริมถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 26 หมู่ 12 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย นายปกาศิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอสวี พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก. สภ.สวี ตำรวจทางหลวงชุมพร หน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ และ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุริมถนนช่องทางขาล่องใต้เป็นทางตรงห่างจากโค้งดอนมะพร้าวประมาณ 300 เมตร พบรถยนต์แบบ SUV ยีห้อเอ็มจี สีดำ ทะเบียน 7 กจ.8707 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับต้นหางนกโยงขนาดใหญ่กว่าคนโอบจนหน้ารถยุบพังยับเยินเศษชิ้นส่วนรถแตกกระจายไปทั่วส่วนเครื่องยนต์หลุดออกมาอยู่นอกตัวรถ มีผู้เสียชีวิตถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายใน 2 ศพ หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมานานกว่า 20 นาที ทราบชื่อคือ นายจิรวัฒน์ สุทัศน์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1211/76 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เป็นคนขับสภาพถูกอัดติดอยู่กับเบาะนั่ง ศพถูกแรงกระแทกกับคอนโทรลหน้ารถจนศีรษะหายไปเกือบหมดกะโหลกและสมองกระจายเกลื่อน อีกศพถูกอัดติดอยู่กับที่นั่งเบาะหลังด้านซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัวทราบชื่อคือ นางสาวนพรัตน์ บัวงาม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน นั่งมาเบาะข้างคนขับหน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลชุมพร-ธนบุรี ก่อนหน้านั้นแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวสัตยา กันนิดา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงห่างจากโค้งดอนมะพร้าวประมาณ 300 เมตร ไม่มีรองรอยการเบรก พบเพียงรอยล้อรถคันเกิดเหตุวิ่งลงไปข้างทางแล้วเชี่ยวกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างเสียหาย 1 ต้น จากนั้นรถได้แฉลบพุ่งไปชนกับต้นหางนกยูงขนาดใหญ่ที่จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร จนหน้ายุบเครื่องยนต์หลุดกระเด็นออกมา เศษชิ้นส่วนรถแตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ
นายสุชาติ มุกแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 395/1 หมู่ที่ 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร กล่าวว่าตนไม่รู้จักกับผู้ตายแต่ช่วงเกิดเหตุตนได้ขับรถตามหลังมาเพื่อจะกลับบ้านเกิดที่ภาคใต้จู่ๆเห็นรถยนต์คันดังกล่าววิ่งลงไปข้างทางโดยไม่มีไฟเบรกด้านท้ายติดขึ้นแต่อย่างใดแล้วพุ่งไปชนกันต้นไม้ขนาดใหญ่ริมถนนเข้าอย่างจังตนจึงได้จอดรถลงไปดูและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว

ขณะที่นางสารีย์ เพ็ชรรัตน์ อายุ 55 ปี กล่าวว่าตนและผู้ตายกับผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนกันทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยตนมีบ้านเกิดอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี วันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ตรงกับการทำบุญครบ 100 วัน ญาติตนพอดี ผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาร่วมงานบุญด้วยและจะเที่ยวพักผ่อนที่เกาะสมุยช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเดินทางออกจากกรุงเทพฯช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของคืนวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ตนมารถเก๋งอีกคันกับญาติรวม 4 คน ขับนำหน้ารถผู้ตายห่างกันประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งผู้ตายรู้เส้นทางดีเพราะเคยเดินทางมาเที่ยวแล้วหลายครั้ง ระหว่างทางได้โทรศัพท์ติดต่อกันตลอดและบอกกับผู้ตายว่าถ้าง่วงนอนก็อย่าฝืนขับให้จอดพักผ่อนแล้วค่อยขับต่อ กระทั้งตอนเช้ามีคนโทรศัพท์มาบอกว่านายจิรวัฒน์ขับรถชนต้นไม้ตายแล้ว ทำให้ตกใจอย่างมากจึงขับรถย้อนกลับมาดูก็พบกับเหตุสลดใจดังกล่าว

จากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายจิรวัฒน์ที่ขับรถออกมาจากกรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงค่ำก่อนวันเกิดเหตุซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลกว่า 500 กิโลเมตร นานหลายชั่วโมงอาจจะเกิดอาการอ่อนเพลียง่วงนอนจนทำให้เกิดอาการหลับในจนรถพุ่งลงข้างทางชนต้นไม้จนเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

นายสาธิต ศรีหฤทัย/ชุมพร

Loading