นราธิวาส พบ 6 ชีวิตรันทด พ่อเสีย แม่ป่วย อาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าๆนานกว่า 20 ปี หาพลาสติกขายรายได้ประทังชีวิต วอน
หน่วยงานช่วยซ่อมบ้าน หลบลมและแดด สงสารแม่ช่วยป้องกันยุงกัด
วันนี้ (27 ม.ค.60) สมาชิกโครงข่ายตาสับปะรดได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านปูลากาปะ ม.7 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ว่าพบมีชาวไทยพุทธยากไร้ รวม 6 ชีวิต อาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 182/3 ม.7 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ บ้านหลังดังกล่าวมีสภาพเก่ามาก มีนางสมบัติ สิหาบุตร อายุ ประมาณ 85 ปี นอนพิการอยู่บนที่นอน โดยมีลูกสาวทั้ง 2 คน ดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นหลังเก่าๆเพียงหลังเดียวในหมู่บ้านดังกล่าว นานกว่า 20 ปี ปลูกแบบง่ายๆสภาพเก่า โดนำสังกะสีผุๆมุงทำเป็นหลังคา มีกระเบื้อง ไม้ไผ่ แสลน ตะข่าย และผ้ายางทำเป็นฝาบ้าน รวมทั้งใช้ถุงข้าวเป็นที่บังลม และแสงแดด ส่วนพื้นบ้านใช้ไม้ท่อนเก่าๆ ไม้ไผ่และไม้กระดานปูทำเป็นพื้นที่นอนและนั่งเล่น สร้างอยู่ริมคลองขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร โดยใต้ถุนบ้านเต็มไปด้วยน้ำขังนานนับเดือนหลังจากมีฝนตกลงมา
ส่วนภายในบ้านหลังดังกล่าว มีนางสมบัติ สิหาบุตร นอนพักอยู่บนที่นอน ในสภาพที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ไม่สามารถพูดจาได้ มีนางสำราญ สิหาบุตร และนางสาวอรพิณ สิหาบุตร บุตรสาวทั้ง 2 คน คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากร่างกายซีกซ้ายพิการไม่มีความรู้สึก โดยลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องคอยขยับและเปลี่ยนอริยะบทอยู่ตลอดเวลาสลับกันดูแล โดยมีสมาชิกในครอบครัวอยู่รวมกันทั้งหมด 6 คน ชาย 2 คน หญิงอีก 4 คน ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยงานของทางราชการได้มาดูแลในเรื่องของสุขภาพนางสมบัติ อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งยังได้รับเงินคนชราเพื่อแบ่งปันหาซื้ออาหารมาทานกันทั้งครอบครัว รวมทั้งมีลูกหลานและลูกเขยคอยจุนเจือให้อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนรายได้จากคนในสมาชิกในครอบครัวนั้นมีไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย เนื่องจากลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องอยู่ดูแลนางสมบัติ ผู้เป็นแม่อยู่ตลอดเวลา จึงไม่สามารถจะหางานเป็นหลักแหล่งได้ โดยในแต่ละวันมีรายได้จากการรับจ้างทั่วไป หาของเก่า เศษกระดาษ เศษขวดเก่า มาขายเท่านั้น โดยมีรายได้ที่ไม่แน่นอน
ด้านนางสาว อรพิณ สิหาบุตร เปิดเผยว่า ตนและครอบย้ายมาจากจังหวัดขอนแก่นมาทำงานที่นราธิวาส มานานกว่า 20 ปี แล้ว โดยนายสมาน สิหาบุตร (พ่อ) ชวนกันมาทำงานเป็นลูกจ้างให้กับบริษัท(แห่งหนึ่ง) โดยเจ้าของบริษัทได้ให้อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ จนกระทั้งเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว (2547) พ่อได้เสียชีวิตลง และหลังจากนั้น 1 ปี (2548) แม่ก็ป่วยหนัก จนทำให้ชีวิตครอบครัวลำบากขึ้นมาก อีกทั้งบ้านที่อาศัยอยู่ในตอนนี้ ทางเจ้าของที่ดินอยู่ในระหว่างการติดประกาศขาย และหากมีคนมาซื้อครอบครัวก้อาจจะต้องย้ายในทันที และในช่วงนี้จึงขอวิงวอนให้หน่วยราชการช่วยมาซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นหน่อยเนื่องจากสงสารแม่ที่นอนป่วยและอย่างน้อยเพื่อกันลม กันแดด และกันยุงให้แม่ให้ดีกว่านี้ก็พอใจแล้ว.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ