วันศุกร์, 27 ธันวาคม 2567

รอง.ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ สภ.เสนา

วันนี้ (29 ม.ค.60) ระหว่างเวลาประมาณ 09.30-10.00 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง
ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กิติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง

ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายปัญญาหรือเบียร์ จันทร์เปรม ผู้ต้องหาคดี “ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเคลื่อนย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย” (ตามหมายจับของศาลจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ที่ จ.32/2560 ลงวันที่ 28 มกราคม 2560)

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 เวลาประมาน 14.00 น. สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับเเจ้งเหตุพบศพ นางวราภรณ์ วีระสัย (ได้แจ้งบุคคลสูญหายที่ สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา)
ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ใช้ แอพพลิเคชันแชท “บีท็อค” ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ชายคนหน่ึง ต่อมาได้สืบสวนจนทราบว่า ชายคนดังกล่าว คือ นายปัญญาหรือเบียร์ จันทร์เปรม ผู้ต้องหา ซึ่งตามวันเวลาที่เกิดเหตุได้นัดพบกันที่โรงแรมเฟื่องฟ้ารีสอร์ท ในพื้นท่ี อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และได้มีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกัน ผู้ต้องหาจึงได้ใช้ปลอกหมอนและเชือกรัด ปลอกหมอน ทำการรัดท่ีคอของผู้เสียชีวิตจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนั้นได้นำศพผู้เสียชีวิตบรรทุกใส่ในกระโปรงหลังรถยนต์ นำไปทิ้งลงท่ีจุดเกิดเหตุ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย จากนั้นจึงได้ชำแหละรถจักรยานยนต์ของผู้ตายนำไปทิ้งแม่น้ำ และนำทรัพย์ผู้ตายไปขาย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา ตามหมายจับของศาลจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ที่ จ.32/2560 ลงวันที่ 28 มกราคม 2560 จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“การปฏิบัติในครั้งนี้เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเข้าตรวจสอบในพื้นที่โดยทันที มีการประสานงานร่วมกันแบบบูรณาการ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การทำงานในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของตำรวจภูธรภาค 1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป”



 

Loading