บิ๊กอวบ บิ๊กนู บิ๊กแซ็ก เดอะโอ๋ !!! ร่วมแถลงรวบ 4 โจ๋ หัวร้อนปาหิน
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่สภ.บางพลี จว.สมุทรปราการ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.อาพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิต ผกก.กก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นายเอ(นามสมมุติ)อายุ 16 ปีนายพิสิษฐ์ หรือนนท์ เพชรเลิศ อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 276 ม.2 ต.ลุมพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 367/62 ลง 13 พ.ค.62 นายกวีโชค หรือเศรษฐี เงาศรี อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 364 ม.2 ต.ลุมพุก อ.คาเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 365/62 ลง 13 พ.ค.62 และนายวัชระ หรือแดค บุญลือ อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 310 ม.2 ต.ลุมพุก อ.คาเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 366/62 ลง 13 พ.ค.62 กระทาผิดฐาน “ร่วมกันพยายามทาร้ายร่างกายผู้อื่นและร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” ที่ร่วมกันใช้ก้อนหินปาใส่ ด.ช.วิษณุสรรค์ หรือน้องอาร์ม สุวรรณภา อายุ 14 ปี จนเสียชีวิต พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น GT 125 สี เทาดา ทะเบียน 7กฌ-470 กทม.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สี นาเงิน ทะเบียน 2กม-7747 กทม.ที่ใช้เป็นยานพาหนะขณะก่อเหตุ โดยมีนางเพ็ญศรี แม่ของน้องอาร์มรวมทั้งพ่อเลี้ยงและญาติมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.เวลา 00.20 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลีได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นเขม่นกันและใช้ก้อนหินขว้างใส่ บริเวณริมถนนเทพารักษ์ ปากซอยบางปลา 15 ต.บางปลา อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บคือด.ช.วิษณุสรรค์ หรือน้องอาร์ม สุวรรณภา อายุ 14 ปีซึ่งได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วโดนก้อนหินขว้างใส่จนร่วงตกจากรถลงพื้นถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 4 คนคือ นายเศรษฐี คนขว้างหินร่วมกับนายเอ(นามสมมุติ)นายแดค และนายนนท์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการออกสืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งวันที่ 13 พ.ค.สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 คนคือ นายเอและนายนนท์ ก่อนส่งตัวเข้าควบคุมที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยต่อว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้พยามๆกดดันผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 รายคือนายเศรษฐีและนายแดค ซึ่งทั้งสองหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติที่ จว.มุกดาหารและ สุดท้ายผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหวได้ติดต่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะไปรับตัวกลับมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายเศรษฐีได้ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนปาก้อนหินใส่น้องอาร์มจริงส่วนสาเหตุเกิดความจากคึกคะนองและไม่พอใจที่โดนมองหน้าหาเรื่อง โดยทั้งคู่ยืนยันว่าถ้าวันนั้นผู้ตายไม่ได้มองหน้าแบบหาเรื่องก็คงไม่ขี่ตามไปก่อเหตุ และไม่ได้คิดจะเอาให้ถึงตายแค่หวังจะสั่งสอนเท่านั้่น
หลังจากแถลงเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลังกว่า 30 นายได้ควบคุมตัวนายเศรษฐี กับนายแดค มาจำลองเหตุการณ์ที่ลานจอดรถข้างโรงพักในช่วงที่นายเศรษฐี ปาหินใส่น้องอาร์มจนกระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ ท่ามกลางญาติและเพื่อนๆของน้องอาร์มที่มาดูการทำแผนจำนวนมากในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นของน้องอาร์มได้ตะโกนสาปแช่งก่อนที่จะวิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เข้ารุมประชาทัณฑ์จนเกิดการชุลมุนวุ่นวาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกันตัวทั้งคู่ออกมาได้และนำตัวเข้าควบคุมในห้องขัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งคู่ออกจากห้องขังเพื่อขึ้นรถนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการซึ่งทางแม่และพ่อรวมทั้งญาติๆน้องอาร์มที่โกรธแค้นได้ปรี่เข้าไปรุมประชาทัณฑ์นายเศรษฐี กับนายแดค เป็นรอบที่สอง สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถนำทั้งหมดขึ้นรถไปส่งฝากขังได้ ซึ่งแม่น้องอาร์มอยากให้ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ร่วมกันฆ่าลูกชายได้รับโทษประหารชีวิต ให้สาสมกับการกระทำที่โหดร้าย
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันพยายามทาร้ายร่างกายผู้อื่นและร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
