ลพบุรี อุทาหรณ์สาวใหญ่ใส่เกียร์ถอยคาไว้ไปเปิดประตูรั้วรถถอยทับดับคาหน้าบ้าน
อุบัติเหตุสลดรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2562 พันตำรวจโท วิจิตร ศรีตะชัย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถทับคนเสียชีวิตที่ริมถนนสายโคกตูม-มะหนาวหวาน บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 2 ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พระนารายณ์มหาราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุมีญาติ และชาวบ้านมุงดูอยู่จำนวนหนึ่งบริเวณประตูรั้วเหล็กทางเข้าบ้านซึ่งเป็นทางลาดชัน พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วก – 8092 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่โดยที่เครื่องยนต์ยังติดอยู่ ในรถยังเปิดแอร์ และเครื่องเสียงเอาไว้ ตรวจสอบภายในรถพบว่ารถมีการเข้าเกียร์ ถอยหลังคาเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำเอาก้อนหินไปหนุนล้อเอาไว้เพื่อไม่ให้รถถอยหลังได้อีก จากการตรวจสอบที่ใต้ท้องรถบริเวณล้อหลังด้านซ้ายพบร่างนางสาวดวงเดือน โพธิ์ไพงาม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/22 หมู่ที่ 4 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ถูกล้อหลังทับศีรษะคาติดล้ออยู่ในสภาพมีบาดแผลที่ใบหน้า เลือดไหลนองพื้น ที่มือขวาผู้ตายยังกำกุญแจที่ใช้ล็อคประตูบ้านเอาไว้ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโมง
จากการสอบถามนาง กัญญา โพธิ์ไพงาม อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวผู้เสียชีวิตเล่าว่า ตนและพี่สาวมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว เมื่อช่วงค่ำญาติและพี่สาวได้เดินทางมาหาตนที่บ้านจึงได้ทำอาหารกิน จนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ทางพี่สาวได้ขอตัวกลับบ้านพักที่ตำบลโคกตูม โดยบอกกับตนว่ากลับแล้วนะพรุ่งนี้จะได้ทำงานต่อโดยผู้ตายได้ขับรถและพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่สาวอีกเลยจนกระทั่งช่วงเช้ามีชาวบ้านโทรไปบอกว่าพี่สาวถูกรถทับเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นคำลาครั้งสุดท้ายของพี่สาว
ทั้งนี้ทางสารวัตรเวรสอบสวน ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและได้สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง และพยานผู้ทีเห็นเหตุการณ์ รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการสันนิฐานในเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายคงจะจอดรถโดยที่ไม่ได้ดึงเบรกมือ หรือเข้าเกียร์ว่างเอาไว้ ในจังหวะที่เดินไปเปิดประตู โดยที่ไม่ทันระวังรถได้ถอยมาทับร่างจนได้รับบาดเจ็บ ดิ้นทุรนทุรายโดยที่ไม่มีใครช่วยและเสียชีวิตอย่างสลด ทางสารวัตรเวรได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่งการชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชอีกครั้ง ก่อนที่จะได้มอบร่างให้กับญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
กฤษณ์ ลพบุรี