ชาวบ้าน หมู่ที่2 ต.เพหลา อ.คลองท่อม ร้องเรียนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปล่อยน้ำเสียลงห้วยสาธารณะ ส่งกลิ่นเหม็น น้ำเน่า ชาวบ้านหวาดกลัวผิดใจกับผู้นำท้องถิ่น ทำให้ผู้สื่อข่าวภาคสนาม ต้องนั่งชี้สภาพน้ำเน่าเสียจากโรงงานแทนชาวบ้านในพื้นที่เสียเอง
วันที่ 2 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ว่ามีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งหนึ่ง ได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่ห้วยสาธารณะ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ในการประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยเฉพาะการกรีดยางพารา ที่ได้รับผลกระทบคือ กลิ่นเหม็น น้ำเน่า ส่งผลให้ปลาที่มีอยู่ในธรรมชาติตาย ชาวบ้านไม่สามารถหาปลาตามแหล่งน้ำดังกล่าวได้ รวมระยะทาง 2-3 กิโลเมตร ตามแนวห้วยสาธารณะระหว่างสวนของชาวบ้าน โดยที่ไม่มีหน่วยงานของภาครัฐเข้าไปดูแลแต่อย่างใด นอกจากนั้นทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งนี้ขุดคูระบายน้ำเสียภายในพื้นที่ของโรงงานแล้วปล่อยน้ำเสียลงห้วยสาธารณะ ทั้งๆที่น้ำยังไม่ผ่านการบำบัดแต่อย่างใด ทำให้สภาพน้ำดำเน่าเหม็น และส่งกลิ่นอย่างรุนแรง ทำลายระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม
จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าโรงดังสกัดน้ำมันปาล์มดังกล่าวเป็นของบริษัทปาล์มพันล้าน จำกัด ม.2 ถ.เพชรเกษม ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้ปล่อยน้ำเสียมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ในสภาพน้ำเน่าเหม็น ทำให้ห้วยสาธารณะจากน้ำใสกลายเป็นน้ำดำสนิท และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ (แต่ขอสงวน ชื่อ และนามสกุล) เนื่องจากไม่อยากมีปัญหาผิดใจกับผู้นำท้องถิ่น และเกรงกลัวผู้มีอิทธิพลจากทางโรงงาน และจากผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ที่ไม่อยากให้มีการร้องเรียนถึงเหตุการณ์ ที่โรงงานดังกล่าวปล่อยน้ำเสียลงสู่ห้วยสาธารณะ แต่ตนเองทำไปเพื่อต้องการความถูกต้อง และต้องการให้ทางโรงงานรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าในพื้นที่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทุกคนต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะไม่ต้องการผิดใจกับผู้นำท้องถิ่น อยากให้หน่วยงานของภาครัฐระดับจังหวัดเข้ามาดำเนินการแก้ไขและสั่งการให้ทางโรงงานรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำลงไป เพราะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวหลังจากลงพื้นที่ ทราบว่า ไม่มีผู้น้ำท้องถิ่นในพื้นที่เข้ามาดูแลปัญหาดังกล่าว ไม่มีรายงานเสนอไปยังทางอำเภอคลองท่อม ถึงปัญหาที่ทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ของบริษัทปาล์มพันล้าน จำกัด ปล่อยน้ำเสียลงสู่ห้วยสาธารณะดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านในพื้นที่หวาดกลัวต่อผู้น้ำท้องถิ่น ไม่กล้าคัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องไปนั่งชี้สภาพน้ำเน่าเสีย ด้วยตัวเองแทนชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเป็นตัวแทนชาวบ้านในเชิงสัญญาลักษณ์
กระบี่//ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง. รายงาน