บิ๊กแซ็ก!เดอะโอ๋!!!นำทีมสืบสวน ภ.1 ตามรวบแก๊งค์ “ตี๋มังกรจีน”บุกงัดตู้เซฟ ห้องประธานบริษัท กวาดทรัพย์สินกว่า 8 แสน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ที่สภ.สำโรงใต้ ภ.จว.สมุทรปราการ พล.ต.ท อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประเสริฐ บัวขาว ผกก.สภ.สำโรงใต้ พ.ต.อ.กฤษฏากรณ์ กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ ปลื้มจิตต์ รองผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.ธนกร พัฒนนันแก้ว รอง ผกก.สส.บก.ตม.3
ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติสัญชาติจีนร่วมกันลักทรัพย์ตู้เซฟจำนวน 4 รายนายหวง ฮัว MR.HUANG HUA สัญชาติจีน อายุ 33 ปีหนังสือเดินทางเลขที่ ED 4616525 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 539/2562 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 นายวู หยวนบิน MR.WU YUANBIN สัญชาติจีน อายุ 33 ปีหนังสือเดินทางเลขที่EB 2267491 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 538/2562 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 นายหวง หยี MR.HUANG YI สัญชาตจีน อายุ 33 ปีหนังสือเดินทางเลขที่ EF4907258 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 540/2562 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 และนายหวง หลี่เฉียง MR.HUANG RIXIANG สัญชาติจีน อายุ 31 ปี หนังสือเดินทางเลขที่EE9686874 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 541/2562 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 โดยสมารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่นเลขที่ 70-72 ถนนสุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จว.ระยอง พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีดา-เหลือง ทะเบียน 4 กบ 5198 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น คลิก สีดำ-แดง ทะเบียน สสส 344 กรุงเทพมหานคร ทองคำแท่งน้ำหนัก 5 บาทจำนวน 3 แท่งพระเครื่องเลี่ยมทอง+สร้อยคอทองคำจำนวน 2 เส้น เงินสกุลต่างประเทศต่าง ๆ จำนวน 150 ใบ เงินธนบัตรไทยจำนวน 224 ใบ รวมทรัพย์สินที่สูญหายทั้งหมดประมาณกว่า 800,000 บาท
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 08.20 น.ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ งัดตู้เซฟ ภายในบริษัท สินสงวน แอนด์ซันส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 130 ม.2 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ โดยทางผู้เสียหายแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คนได้ลักลอบเข้ามาภายในบริษัท สินสงวนแอนด์ซันส์ จำกัด และได้งัดตู้นิรภัย(ตู้เซฟ) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดสมุทรปราการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบริษัทดังกล่าวผลิตเครื่องมือช่างทุกประเภทมีคนงานประมาณ 300 คนบนเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ ที่บริเวณห้องเกิดเหตุเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในห้องมีตู้เซฟที่บรรจุทรัพย์สินดังกล่าวถูกงัดแงะในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดจำนวน 32 ตัว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีคนร้ายจำนวน 4 คน เข้าไปก่อเหตุครั้งนี้ จึงได้ทำการสืบสวนและซักถามพยานเป็น รปภ.ทราบว่าในวันเกิดเหตุมีรถต้องสงสัยมาจอดข้างกำแพงบริษัทจำนวน 2 คน และสามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้1คันจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก สีดา-แดง หมายเลขทะเบียน สสส 344 กรุงเทพมหานครและได้สืบสวนต่อมาทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีดา-แดง หมายเลขทะเบียน สสส 344 กรุงเทพมหานครและรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า มีโอ สีดา-เหลือง หมายเลขทะเบียน 4กบ 5198 กรุงเทพมหานคร ที่ร้านอำไพมอเตอร์ แขวง/เขต คลองเตย กรุงเทพมหานครจำนวน 2 คัน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบว่าคนร้ายทั้ง 4 รายหลังก่อเหตุได้ใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีโดยใช้เส้นทางหลบหนีไปทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าไปชลบุรี จึงได้ร่วมรวบพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดต่อมาสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางที่ถูกก่อเหตุรวมทรัพย์สินที่สูญหายทั้งหมดประมาณ 800,000บาทและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจานวน 2 คัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุโรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น เลขที่ 70-72 ถนนสุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จว.ระยอง
โดยแจ้งข้อหาว่า”ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสาหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำได้ขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ทีมข่าว อาชญากรรม
