วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

บิ๊กอวบ-บิ๊กนู-เดอะโอ๋!!นำทีมสืบสวนภ.1”บุกรวบหนุ่มโรงเฉือด มือมัด”ฆ่าเปลือยสาว”

บิ๊กอวบ ! บิ๊กนู ! เดอะโอ๋ !!! นำทีมสืบสวน ภ.1 รวบ หนุ่มโรงเฉือด มือมีด ฆ่าเปลือยสาว


วันที่ 30 ก.ค. ที่บริเวณด้านหน้า สภ.แก่งคอย จว.สระบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ต.ธนายุฒม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง

ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตรีโสภณ ผกก.สภ.แก่งคอย พ.ต.ท.นรินทร์ เรืองศรี รอง ผกก.สภ.แก่งคอย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.1 ภ.จว.สระบุรี และสภ.แก่งคอยได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายซูไรดี ยะโก๊ะ อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 387 ถ.จารุเสถียร ต.ปะรุลู อ.สุไหงปาดี จว.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัด สระบุรี ที่ 170 /2562 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ในฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ110 ไอ สีขาว-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน รองเท้าแตะ 1 คู่ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง


พล.ต.ต.ธนายุฒม์ กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 28 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อัศวเทพ จันทร์นาดี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.แก่งคอย จว.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายสภาพเปลือยกายอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องเช่าเลขที่ 133/9 ถนนอุไรรัตน์ (มิตรภาพ ซอย 1) ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จว.สระบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู สระบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่แพทย์เวร รพ.แก่งคอย

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.นันทนา พิทักษา อายุ 40 ปี สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต เปลือยกาย อยู่ที่บริเวณหน้าประตูห้องน้ำ จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่พบบริเวณหน้าอกด้านซ้ายมีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลลึกและมีรอยคล้ายมีของมีคมเฉือดอยู่หลายที่เป็นรอยแผลเหวอะหวะและในห้องน้ำมีคราบเลือดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่นิติวิทยาการ(พฐ)ร่วมเก็บรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานรายละเอียดในคดีที่พบไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

พล.ต.ต.ธนายุฒม์ กล่าวต่อว่าจากการสอบสวน นายซาอุดี เจ๊มุ อายุ 42 ปี สามีของน.ส.นันทนาผู้เสียชีวิตว่าตนได้อยู่กินกับน.ส.นันทนาผู้เสียชีวิตมานานแล้ว โดยตนทำงานเป็นพนักงานเชือดไก่ที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับที่พักและได้เช่าห้องพักดังกล่าวตั้งปี 2558 อยู่กับภรรยา 2 คน และทำงานอยู่ที่บริษัทด้วยกัน ก่อนที่ตนจะลาออกไปทำงานโรงงานที่ จว.นครปฐม โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา น.ส.นันทนาได้กลับมาที่ห้องเพื่อจะเก็บข้าวของเพื่อจะไปอยู่ที่ทำงานใหม่ กระทั่งช่วงเลิกงานตนก็กลับมาที่ห้องพร้อมกับเพื่อนอีก1คนชื่อนายยงยุทธ ภูมิอาจ ได้อาศัยนั่งซ้อนท้ายรถตนมาด้วยเพื่อจะกลับบ้าน ตนได้บอกกับเพื่อนว่าจะแวะหาน.ส.นันทนาที่ห้องพักสักครู่เมื่อไปถึงที่บริเวณห้องเช่า ตนได้จอดรถจักรยานยนต์แล้วให้เพื่อนนั่งรออยู่ ก่อนเดินเข้าไปข้างในก็พบน.ส.นันทนานอนเปลือยกายเสียชีวิตแล้ว ตนตกใจจึงวิ่งออกมาจากห้องพักบอกเพื่อน จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ


พล.ต.ต.ธนายุฒม์ เปิดเผยต่อว่า ได้ประชุมสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงหาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องสงสัยคือ นายซูไรดี ซึ่งพักอยู่ห้องใกล้กับห้องของน.ส.นันทนา โดยหลังจากเกิดได้หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ประกอบกับเคยมีเหตุทะเลาะวิวาทโกรธเคืองกันมาก่อนโดยที่นายซูไรดี เคยมีเรื่องทะเลาะและถูกนายสะอูดี เจมะ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับสามีของน.ส.นันทนาได้พาพวกมาร่วมกันทำร้ายร่ายกายจนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างไร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่หาข่าวทราบว่า นายซูไรดี หลบหนีได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.ปากท่อ อ.ท่าเรือ จว.พระนครศรีอยุธยาจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบ นายซูไรดี ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณป่าละเมาะพร้อมรถจักรยานยนต์และมือถือของน.ส.นันทนา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายซูไรดี ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ในวันเกิดเหตุตนได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่ห้องของตนจนเมาได้ที่กระทั่งเวลา 14.00 น. เห็นว่าห้องผู้ตายอยู่ในห้องเนื่องจากเริ่มมีอาการมึนเมาจึงคิดถึงเรื่องที่โดนทำร้ายและผู้ตายดูถูกเหยียดหยาม จึงเกิดบันดาลโทษะหยิบมีดปลอกผลไม้เดินไปยังห้องผู้ตายในขณะที่ผู้ตายอาบน้ำอยู่เมื่อผู้ตายออกมาจากห้องน้ำจึงเกิดทะเลาะกัน ก่อนใช้มีดแทงไปที่หน้าอกซ้ายและใช้มีดกรีดอีกกว่า 15 แห่งแล้วหลบหนีไป

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย คอยคุมพื้นที่ เนื่องจากมีประชาชนมารอดูการทำแผนจำนวนมาก พร้อมทั้งตะโกนด่าสาปแช่ง ให้ประหารชีวิต หวั่นจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ก่อนคุมตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading