วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย”ถูกนายทุนบังคับไถ่ถอนโฉนดที่ดิน”อ้างเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ย”

อดีตผู้สมัคร ส.ส สอบตกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ย่านคลองสามวา แฉคลิป ถูกนายทุนดอกเบี้ยโหด บังคับไถ่ถอนโฉนด อ้างเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ย ทั้งที่เรียกเก็บล่วงหน้าพร้อมหักเงิน ปากถุง หรือเงินกินเปล่าอีกร้อยละ5

นายกิตติศักดิ์ ทาทิตย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สอบตก พรรครวมพลังประชาชาติไทยเผย เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี62 ธุรกิจเกิดขาดสภาพคล่อง จึงนำโฉนดที่ดินไปจำนำกับนายทุนรายหนึ่ง ผ่านนายหน้า เบื้องต้น กู้เงิน 300,000 บาท คิดดอกร้อยละ 2 ต่อเดือน

โดยมีเงื่อนไข หักดอกเบี้ยล่วงหน้าจากเงินต้นร้อยละ2 จำนวน 2 เดือน และหักเงินปากถุง หรือเงินกินเปล่าอีกร้อยละ 5 ของเงินกู้
และนำดอกเบี้ยที่เหลือ อีก 4 เดือน ไปรวมเป็นเงินต้น ชำระพร้อมวันไถ่ถอน ซึ่งกำหนดไถ่ถอนใน 6เดือน

โดยข้อตกลงดำเนินการด้วยวาจา และทำเอกสารจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน ระบุ เงินต้น 323,500 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกเดือน

ซึ่งแตกต่างจากที่ตกลงด้ววาจา แต่ นายทุนระบุ ไม่มีปัญหา ตนเองจึงได้รับเงินกู้ เป็นเงินสดหักดอกเบี้ย2 เดือน จำนวน 12,000บาท และเงินหักปากถุง ร้อยละ5 เป็นเงิน 15,000 บาท จึงรับเงินสดเพียง 273,000 บาท

และเมื่อวันที่30 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายหน้าและนายทุน เพื่อยื่นชลอการไถ่ถอนออกไปอีก1 เดือน โดยขอให้ลดดอกเบี้ย เหลือเดือนละ 4,000 บาท กลับถูกปฎิเสธ ที่สำคัญ ให้หลังเพียง 1 วัน ได้รับหนังสือจากสำนักทนายความแห่งหนึ่ง แจ้งจากเจ้าหนี้ ให้ไปไถ่ถอนโฉนด ที่จำนองไว้ภายใน60 หลังจากได้รับแจ้ง ระบุ ผิดชำระดอกเบี้ยตั้งแต่กู้ยืมมา ทั้งที่ดอกเบี้ยได้หักออกจากเงินต้น และนำไปบวกรวมในเงินต้นแล้ว

โดยนายหน้าและนายทุนต่างปฎิเสธที่จะรับชำระดอกเบี้ยที่ขอต่อสัญญา 1 เดือนจำนวน 6,000 บาท ผ่านบัญชีธนาคาร บอกเพียงว่าให้นำเงินสดชำระด้วยตนเองเรื่องก็จบ

ทั้งนี้เชื่อเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย และจงใจทำให้ผู้กู้เสียผลประโยชน์และถูกกล่าวหาเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ย เนื่องจากไม่มีหลักฐานหรือเอกสารมอบให้ว่าได้ชำระดอกเบี้ยเงินกู้แล้ว อาจเป็นเหตุผู้กู้ถูกฟ้องร้อง ได้
อีกทั้งยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจาการจำจดจำนองที่ดินครั้งนี้

ซ้ำยังบอกเชิงข่มขู่ว่า ผู้กู้ไม่สามารถไปถ่ายถอนที่สำนักงานที่ดินได้ด้วยตนเอง พยายามใช้ความได้เปรียบทางกฎหมายบีบคั้นผู้กู้ยืม ให้ชำระหนี้ตามแจ้งซึ่งเป็นความเท็จ

หากว่ากันตามหลักฐานสัญญา ผู้กู้จะเสียดอกเบี้ยเพียงเดือนละ 4,041.25 บาทเท่านั้น แม้จะคิดยอดเงินกู้จากที่บวกดอกเบี้ยเพิ่มไปล่วงหน้าถึง 4 เดือน
จึงถือเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

(มีคลิป นายหน้าและผู้กู้รับว่าเรียกเก็บดอก เดือนละ 6,000บาท)

นายกิตติศักดิ์ ระบุอีกว่า ขนาดตนเอง อาสาเข้ามาทำหน้าที่เป็น
กระบอกเสียงให้ประชาชน ยังถูกนายทุนใช้วิธีฉ้อฉล เพื่อเอารัดเอาเปรียบผู้กู้ นอกจากคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดแล้ว ยังอ้างว่าผิดนัดชำระดอกเบี้ยอีกด้วย

หากเป็นชาวบ้านตาดำๆ คงถูกยึดโฉนดแน่ ยืนยัน มีหลักฐานเอาผิดนายทุนรายนี้ และเตรียมนำเรื่องนี้เสนอพรรคเพื่อพิจราณาช่วยเหลือให้ประชาชน ที่ขาดโอกาสเข้าแหล่งเงินทุน โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบต่อไป

Loading